ลักษณะของการเพาะปลูกเห็ดฟาง



          การเพาะปลูกเห็ดฟางในประเทศไทยส่วนใหญ่จะใช้วิธีปลูกที่เลียนแบบธรรมชาติ โดยการนำฟางมากองสุมๆ กัน ตามบริเวณที่เห็ดฟางเคยขึ้น แล้วโรยเชื้อเห็ดบนกองฟางที่เตรียมไว้ เมื่อเชื้อเห็ดได้รับความชื้นและอุณหภูมิที่เหมาะสม ประมาณ 15-20 วัน ดอกเห็ดก็จะเกิดขึ้น มีผลผลิตให้เก็บได้เรื่อยๆ จนกระทั่งฟางจะเน่าสลายไปหมด แต่วิธีนี้เป็นวิธีที่ได้ผลผลิตไม่ค่อยแน่นอน
          ปัจจุบันการเพาะปลูกเห็ดมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น วิธีการเพาะปลูกเห็ดได้อาศัยวิทยาการต่างๆ มาปรับปรุงในทุกๆ ด้าน เช่น การคัดเลือกสายพันธุ์เห็ด การให้อาหารเสริม การปรับปรุงสภาพแวดล้อม ตลอดจนมีวิธีการจัดการที่ถูกต้อง มีการลงทุนกับบริษัทหรือฟาร์มขนาดใหญ่ และส่งโรงงานบรรจุกระป๋อง ซึ่งการเพาะปลูกเห็ดฟางสามารถทำได้ 3 วิธี คือ
          1. การเพาะปลูกแบบกองสูง เป็นวิธีที่มีการทำกันมาตั้งแต่มีการเพาะปลูกเห็ดในช่วงแรก ปัจจุบันก็มีทำวิธีนี้อยู่บ้างและยังให้ผลผลิตดี เหมาะสำหรับเพาะปลูกเป็นผักสวนครัวทั่วๆไป วิธีนี้ต้องใช้ฟางเป็นจำนวนมาก ประมาณ 40-50 ฟ่อน การเพาะปลูกแบบนี้นิยมน้อยในปัจจุบันเพราะใช้ฟางจำนวนมาก และต้องเก็บหลายรุ่นทีละน้อย ไม่เหมาะกับการเพาะขาย


ภาพที่ 4 การเพาะปลูกแบบกองสูง

(ที่มา : https://www.gotoknow.org/posts/606613)

2.  การเพาะปลูกแบบกองเตี้ย เป็นการดัดแปลงมาจากวิธีการเพาะปลูกแบบกองสูง นิยมใช้วิธีนี้เป็นอย่างมากและแพร่หลายที่สุด โดยการปรับสภาพแวดล้อมให้สอดคล้องกับธรรมชาติของเห็ดฟาง เป็นวิธีที่ไม่ยุ่งยาก ลดต้นทุนในการผลิต และประหยัดแรงงาน สามารถใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรได้ เช่น ผักตบชวา ปลายฟาง เปลือกถั่วเหลือง เป็นต้น ใช้พื้นที่ในการเพาะปลูกน้อย สามารถกำหนดระยะเวลาให้การเก็บผลผลิตได้อย่างแน่นอน


ภาพที่ 5 การเพาะปลูกแบบกองเตี้ย
(ที่มา : https://www.gotoknow.org/posts/606613)

    3. การเพาะปลูกเห็ดฟางแบบอุตสาหกรรมหรือแบบโรงเรือน เป็นการเพาะปลูกที่กำหนดให้ผลผลิตสูงอย่างสม่ำเสมอ ใช้เวลาเพาะปลูกสั้น สามารถทำให้ขนาด สี และลักษณะต่างๆ ได้ตรงตามที่ตลาดต้องการ โดยเพาะปลูกในโรงเรือนที่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมให้ใกล้เคียงเหมาะกับการเจริญเติบโตของเห็ดฟางได้ แต่มีข้อเสีย คือต้องลงทุนในการทำครั้งแรกสูง เพราะต้องทำโรงเรือน เครื่องกำเนิดไอน้ำและอุปกรณ์อื่นๆ และขั้นตอนการเพาะปลูกที่มีรายละเอียดมาก ผู้เพาะจะต้องมีความชำนาญ(บุญส่ง วงศ์เกรียงไกร, 2543, หน้า 21-23)


ภาพที่ 6 การเพาะปลูกเห็ดฟางแบบอุตสาหกรรมหรือแบบโรงเรือน
(ที่มา : https://goo.gl/uWRJ2L)



ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ลักษณะของเห็ดฟาง

รูปภาพ
          เห็ดเป็นพืชประเภทรา มีการเจริญเติบโตเริ่มจากเส้นใยของเห็ดที่รวมตัวกันเป็นก้อนในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เข่น ที่ที่มีอาหาร ความชื้น และอุณหภูมิที่เหมาะสม ก้อนเห็นจะเจริญเติบโตมีขนาดใหญ่ขึ้น และยืดยาวขึ้นเผยให้เห็นส่วนต่างๆ ของดอกเห็ด ซึ่งประกอบด้วยส่วนต่างๆ ดังต่อไปนี้ 1. หมวกเห็ด หรือดอกเห็ด มีลักษณะคล้ายร่ม ผิวเรียบสีขาวเทาจนถึงดำ ตามสายพันธุ์ และสภาพแวดล้อม กลางดอกเว้าเป็นแอ่ง มีสีเข้ม และจางลงบริเวณขอบดอก ขอบดอกคุ้มลงหรือแบนราบ เนื้อเห็ดสามารถเปลี่ยนสีได้เมื่อซ้ำ และถูกอากาศ 2. ครีบ เป็นแผ่นเล็กๆ ใต้หมวกเห็ด เรียงกันเป็นแนวขวางจากก้านดอกไปที่ปลายดอก ประมาณ 300 – 400 ครีบ ครีบดอกเปลี่ยนจากสีชมพูอ่อนเป็นสีน้าตาลเข้มเมื่อถึงระยะสืบพันธุ์ เนื่องจากมีการสร้างสปอร์ สปอร์ใสไม่มีสี รูปไข่ ภาพที่ 1 โครงสร้างดอกเห็ด (ที่มา : https://goo.gl/2ehefH ) 3. ก้านดอก ก้านดอกทำหน้าที่ชูดอกเห็ด และลำเลียงสารอาหารให้แก่ดอกเห็ด เชื่อมอยู่ระหว่างฐานดอก และกึ่งกลางดอก ก้านดอกมีลักษณะเป็นแท่งกลม มีสีขาว ประกอบด้วยเส้นใยที่เรียงตัวกั...
อ่านเพิ่มเติม

โรคแมลงศัตรูเห็ดฟางและการป้องกัน

รูปภาพ
       การปลุกเห็ดฟางอาจจะใช้เวลาที่สั้น แต่ก็ยังมีศัตรูหลายชนิดที่มักเกิดบนกองเพาะเห็ดฟาง คอยทำลายและรบกวนการเจริญเติบโต เข่น            1. มดหรือปลวก มดอาจเข้าไปทำรังหรือทำลายเชื้อเห็ด การป้องกันคือ ควรใช้น้ำยา       เอ็พต้าคลอร์ หรือคลอเดน หยดใส่ปากรัง มดจะตายหรือย้ายรังไป ส่วนปลวกจะเข้ามากินเห็ดหรือฟางข้าว ให้ใช้สารหนูเขียวโรยหรือใช้ขี้เถ้าแกลบผสมกับผงซักฟอกหรือยาฆ่าแมลง โดยบนพื้นดิน           2. ไส้เดือนฝอย มีอยู่ทั่วไปทุกแห่ง ทั้งในน้ำ ดิน รวมทั้งในรากพืช โดยเฉพาะกองเห็ดฟางที่มีความชื้น ทำให้ไส้เดือนฝอยมีอาหารดำรงชีวิต การป้องกัน คือ การเผาเพื่อทำลายศัตรูพืชต่างๆ ในกองเห็ดฟาง ไม่ควรทิ้งวัสดุที่หมักหมมตามบริเวณใกล้เคียงกับกองเพาะปลูกเห็ดฟาง เพาระอาจจะเป็นสาเหตุทำให้ไส้เดือนฝอยขยายพันธุ์ได้ง่าย           3. ไรและเชื้อรา มีอยู่ตามพื้นที่ดินทั่วไป มักกัดกินเส้นใยเห็ดเป็นอาหาร ถ้าเพาะปลูกซ้...
อ่านเพิ่มเติม

สายพันธุ์เห็ดฟาง

รูปภาพ
          การเพาะเห็ดฟางส่วนใหญ่ได้มาจากดอกเห็ดที่ขึ้นตามธรรมชาติ แล้วนำมาเพาะปลูกต่อๆ กันมา นักวิชาการจากหน่อยงานไมโครกองพืชและจุลชีววิทยา กรมวิชาการเกษตร จึงได้ทำการเก็บรวบรวมดอกเห็ดที่ขึ้นตามธรรมชาติ แล้วนำมาคัดแยกเป็นสายพันธุ์ต่างๆ ดังต่อไปนี้ 1. เห็ดฟางสายพันธุ์ TBKH 1 เป็นพันธุ์ที่เหมาะสมสำหรับเพาะในประเทศไทย สามารถปรับเข้ากับสภาพการเพาะปลูกแบบพื้นกลางแจ้งได้ดี และเจริญเติบโตได้ดีในฤดูฝน ลักษณะดอกมีขนาดปานกลางถึงใหญ่ หมวกสีเทา รูปร่างมีทั้งทรงไข่และทรงแหลม เกิดเป็นเดี่ยวหรือเป็นกลุ่มๆ ข้อจำกัด คือ ไม่เหมาะที่จะเพาะปลูกในฤดูร้อน เพราะได้ผลิตต่ำ ภาพที่ 3 เห็ดฟางสายพันธุ์ TBKH 1 (ที่มา : http://noynar.blogspot.com/2010/01/blog-post_24.html ) 2. เห็ดฟางสายพันธุ์ TBKH 2 เป็นพันธุ์ที่สามารถเจริญเติบโตได้ดี ให้ผลิตที่สูงอย่างสม่ำเสมอ ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่แปรปรวนได้ดี เพาะปลูกได้ทุกฤดูกาล ไม่ต้องดูแลรักษามาก ทนร้อนได้ดี จึงเหมาะที่จะเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี ยกเว้นในฤดูฝนผลผลิตจะลดลงบ้าง    ...
อ่านเพิ่มเติม