การค้าเชิงพาณิชย์
เห็ดฟางเป็นเห็ดที่ตลาดมีความต้องการสูงมากและต่อเนื่อง
เพราะเป็นที่นิยมบริโภคกันมากทั้งคนไทยและคนต่างประเทศ เนื่องจากเห็ดฟางมีคุณค่าทางอาหารสูง
สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลาย และปลอดภัยจากสารเคมี
ปัจจุบันแม้ว่ามีการผลิตเห็ดฟางกันมาก
แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด
จึงสามารถเพิ่มการผลิตเห็ดฟางขึ้นอีกหลายพื้นที่ในหลายจังหวัด สำหรับลักษณะการจำหน่ายเห็ดฟางในตลาดมี
3 รูปแบบด้วยกัน คือ
1. จำหน่ายแบบเห็ดฟางสด เป็นที่นิยมบริโภคของคนไทยมาก
แต่มักจะพบกับปัญหาเรื่องการขนส่งที่จ้องรักษาให้เห็ดฟางยังอยู่ในสภาพสดอยู่
ลักษณะที่เป็นดอกตูมจะจำหน่ายได้ราคาดี ดังนั้นการเก็บเห็ดฟางเพื่อจำหน่ายสด เกษตรกรต้องเก็บในตอนกลางคืนหรือเช้ามืดและส่งให้ถึงตลาดตอนเช้าเพื่อจำหน่าย
สำหรับการจำหน่ายควรใช้ภาชนะปากกว้าง เช่น ถาด ไม่บรรจุแน่นเกินไป
ส่วนการจำหน่ายเห็ดสดในต่างประเทศนั้น การส่งออกส่งทางเครื่องบิน จะบรรจุในถาดโฟมหุ้มด้วยพลาสติก เพื่อพร้อมจะนำจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตได้ทันที
ปัจจุบันตลาดสำคัญของเห็ดสด
คือ สหรัฐอเมริกา และซาอุอาระเบีย ส่วนประเทศลิเบียมีแนวโน้มว่าจะนำเข้าเห็ดสดจากไทยมากขึ้น
แต่ประเทศฮ่องกง ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ก็นำเข้าเห็ดสดจากประเทศไทย
แต่ไม่สม่ำเสมอ ถ้าประเทศไทยสามารถปรับปรุงให้มีผลผลิตสม่ำเสมอและมีคุณภาพในระดับมาตรฐานแล้ว
โอกาสในการขยายตลาดยังมีอีกมาก(บุญส่ง วงศ์เกรียงไกร, 2543, หน้า99-101)
2. การจำหน่ายแบบเห็ดฟางแห้ง
การแปรรูปแบบเห็ดฟางสดเป็นเห็ดฟางแห้งสามารถทำได้โดยนำเห็ดฟางสดไปอบหรือตากแดดแห้งจนมีความชื้นประมาณ
6-7
เปอร์เซ็นต์ ตลาดเห็ดฟางแห้งในประเทศไทยยังไม่แพร่หลายมากนัก แต่สำหรับตลาดต่างประเทศให้ความสนใจเห็ดฟางแห้งมาก
เพราะเห็ดฟางแห้งมีกลิ่นดีกว่า
เห็ดฟางที่นำมาทำเห็ดฟางเห็ดแห้งควรเป็นเห็ดฟางที่เพิ่งบานใหม่ๆ
เพราะจะให้สีและรสชาติที่ดีกว่าดอกตูม โดยปกติปริมาณเห็ดฟางสด 10-13 กิโลกรัม เมื่อทำให้แห้งแล้วจะมีน้ำหนักแค่ 1
กิโลกรัม นอกจากที่เห็ดฟางแห้งจะทำได้ทั้งดอกแล้ว ยังสามารถทำเห็ดฟางแห้งตัดขวางเป็นชิ้นบางๆ
หรือหั่นแบบผ่าสี่ก็ได้
ซึ่งผลิตภัณฑ์เห็ดฟางแห้งได้มีการนำไปเป็นวัตถุดิบใส่ซุปสำเร็จรูปและบรรจุในผลิตภัณฑ์บะหมี่สำเร็จรูป
สำหรับตลาดประเทศไทยและต่างประเทศ
วิธีการทำเห็ดฟางแห้งมีขั้นตอนดังนี้
1. ตัดแต่งเห็ดฟางที่จะนำไปอบแห้ง
โดยตัดส่วนที่สกปรกและช้ำออก แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด
2. แช่เห็ดฟางในสารละลายโซเดียมเมตาไบซัลไฟด์
0.02% ประมาณ 5 นาที
แล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
3. นำเห็ดฟางมาอบที่อุณหภูมิประมาณ
40-50 องศาเซลเซียส ประมาณ 18-24
ชั่วโมงสำหรับเห็ดฟางทั้งดอก ส่วนเห็ดฟางที่เป็นชิ้นหรือผ่าสี่ใช้เวลาในการอบน้อยลง
4. บรรจุในถุงพลาสติกและปิดไม่ให้มีอากาศเข้าได้
จะทำให้เก็บไว้ได้นานมากขึ้น
3. จำหน่ายแบบเห็ดฟางกระป๋องหรือภาชนะต่างๆ
ลักษณะเห็ดฟางที่จำหน่ายส่งเข้าโรงงานเพื่อบรรจุกระป๋องนั้นจะมีการคัดคุณภาพ ขนาด
รูปร่าง สีสัน และตำหนิอย่างละเอียด
ทั้งนี้เพื่อให้ตรงตามมาตรฐานสากลในการรับซื้อและการตีราคาของโรงงานอุตสาหกรรม
นอกจากนี้เห็ดฟางยังมีการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆ เช่น น้ำพริก
ข้าวเกรียบเห็ด น้ำปลาเห็ด กะปิเห็ด ซ๊อสเห็ด เป็นต้น
สัดส่วนในการบรรจุเห็ดฟางในกระป๋อง คือ
เห็ดฟางสด 1 กิโลกรัมจะได้ประมาณ 2-3 กระป๋อง
ขึ้นอยู่กับขนาดของดอกเห็ดฟาง ขนาดกระป๋อง 16 ออนซ์
นอกจากการบรรจุเห็ดฟางแบบดอกตูมและแบบดอกบานแล้ว ยังมีการบรรจุเห็ดฟางแบบสไลด์
หรือดองเห็ดฟางในน้ำเกลืออีกด้วย
ความต้องการเห็ดฟางในกระป๋องในประเทศไทยยังมีความต้องการน้อย
ส่วนใหญ่จะผลิตเพื่อส่งจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ
แต่เดิมการส่งออกมีเฉพาะประเทศซาอุดิอารเบียและสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
แต่ในปัจจุบันได้ขยายออกกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดยุโรปและเอเชีย
และประเทศที่คาดว่าจะมาเป็นลูกค้าประจำ คือ บาห์เรน ออสเตรเลีย แคนาดา
สวิตเซอร์แลนด์และเนเธอร์แลนด์ สำหรับปัญหาที่สำคัญในการผลิตเห็ดฟางกระป๋อง คือ
วัตถุดิบมีไม่เพียงพอและคุณภาพไม่ได้มาตรฐานที่ตลาดต้องการ(ยุทธนา ธีระวงศ์กังวาน,
2551,
หน้า 100-102)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น